แค่หัวเรื่องก็...เจ็บปวด...แล้วครับ โดยนัยยที่ผมจะพูดถึงเรื่องนี้มีอยู่ 2 ความหมาย...ความหมายแรก..ก็ตรงตามตัวอักษรเลยครับ...ถ้าชีวิตการทำงานหรือชีวิตปกติของเราต้องเจอคนประเภทนี้....มีทางเลือกให้เลือกครับ...ว่าจะ "เลี่ยง" หรือว่า จะ "ลุย" ...
"เลี่ยง" คงไม่ต้องพูดถึง...ส่วน "ลุย" นี่ต้องวางแผนดักทางไม่ให้พวกนี้มีโอกาสฉวยเอาสิ่งที่เจ๋งๆ ของคนอื่นไปเป็นของตัวเอง...โดยเฉพาะจังหวะสำคัญๆ พวกนี้มันจะเก่งนักแล...ที่จะแสดงตัวและบอกว่า...นี่คือผลงานของตน...
อีกความหมายหนึ่งของ "ทำดี...เอาหน้า" ผมได้มาตอนทำงานเป็นพนักงานขาย....
เรื่องมีอยู่ว่า...
มีลูกค้าเจ้าใหญ่ของผมหลายเจ้า ยอดขายเยอะ...ก็เป็นธรรมดาครับที่ต้องช่วยเหลือกันเต็มที่...แถมยังรู้จักสนิทกับคนที่ประสานงานด้วยกันอีกต่างหาก....แต่ก็ยังไม่ทั้งหมดที่ผมรู้จักและต้องประสานงานด้วย....
พอเกิดปัญหาใหญ่ขึ้นมา ตอนนั้นแหล่ะครับ ที่จะเห็นว่าใครจะช่วยเราได้บ้าง...ก็ต้องประเมินสถาณการณ์...และระบุให้ได้ว่า "ใคร" ที่เป็นตัวแปรที่จะตัดสินใจแก้ปัญหาและช่วยเหลือเราได้...อยากบอกว่า..ผมเจ็บตัวประจำแหล่ะครับ...มักจะหาไม่ค่อยเจอ...ฮ่าๆๆ
แต่...ถ้าไม่เจอล่ะครับ?...แถมยังต้องได้คุยแค่ระดับปฏิบัติการ....ที่ดูช่วยเราเต็มที่แล้ว..แต่ก็ปัญหาก็ยังไม่จบ....หรือบางคนก็อาจจะไม่ช่วยเราเลย...คุยไว้ซะดิบดี...แต่ก็เท่านั้น...เจอแบบนี้ก็เครียดสิครับ....ดีไม่ดี อาจจะโดนตลบหลังอีกต่างหาก....
ลูกพี่สุดที่รัก ก็เลยสอนมาครับ..ให้ "ทำดี...เอาหน้า" ไปเลย...
...เราช่วยเหลือเค้าแค่ไหน...ก็ประกาศให้ลูกค้าเค้ารู้...ทั้งหน่วยงาน...
...เราทุ่มเทแค่ไหน...ก็ต้องบอกให้เค้ารู้...ทั้งหน่วยงาน...
...เรามีทางแก้ปัญหาแบบไหน...ก็ต้องบอกให้เค้ารู้...ทั้งหน่วยงาน...
แต่เราต้องแน่นในข้อมูล...และแสดงออกถึงการที่จะช่วยกันแก้ปัญหาจริงๆ....ไม่ได้ โกหก...ปลิ้นปล้อน..กะล่อน...ตอแหล....
...ลองจินตนาการเอาครับ...ว่าภาพลักษณ์ของเราจะดีแค่ไหน...ถ้าแก้ปัญหาได้ก็เจ๋งเลย...หรือแม้ถ้าแก้ไม่ได้...ก็ยังได้ภาพลักษณ์ที่ดีกับลูกค้า...ปัญหาก็จะเบาลงเยอะ เพราะว่าลูกค้าได้เห็นแล้วว่าเราพยายามแค่ไหน....
...หลังจากนั้น...ก็ทำงานด้วยกันง่ายขึ้นล่ะครับ....สบายหู...หึหึ...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น